เรื่อง ‘หน้าแก่’ รู้เหตุ ก็เลี่ยงได้

รอบตัวเราในทุก ๆ วันอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวหน้าเหี่ยวย่นก่อนวัยได้ รวมทั้งความหมองคล้ำ และริ้วรอยก็จะตามมา เพื่อที่จะป้องกัน การรู้ถึงสาเหตุและคอยระมัดระวังไว้ก่อนก็จะดีนะคะ

1. เครียด

เวลาเครียด เรามักจะย่นหน้า ย่นคิ้ว รวมถึงเกร็งใบหน้าอย่างไม่รู้ตัว ซึ่งการแสดงออกถึงความเครียดจะทำให้กล้ามเนื้อบนใบหน้าทำงานหนัก ซึ่งเป็นสาเหตุริ้วรอย การเหี่ยวย่น

2. ขยันโบ๊ะ แต่ไม่ขยันล้าง

ขอบแต่งหน้าแต่ก็ต้องชอบล้างหน้าด้วย การนอนหลับทั้งที่เครื่องสำอางยังอยู่บนหน้า หรือล้างหน้าไม่สะอาดก่อนเข้านอน ทำให้สิ่งสกปรกอุดตันรูขุมขน ทำให้รูขุมขนหายใจลำบาก ออกซิเจนไม่สามารถไม่สามารถเข้าสู่ผิวได้อย่างเต็มที่ ส่งผลให้ผิวหน้าแห้ง ตามมาด้วยสิวและริ้วรอย ซึ่งล้วนแล้วเป็นสาเหตุที่ทำให้หน้าแก่อย่างเลี่ยงไม่ได้

3. ไม่ออกกำลัง

การออกกำลังกายนอกจากจะช่วยให้ควบคุมน้ำหนักได้แล้ว ยังดีต่อผิวอีกด้วย เพราะเวลาที่เราออกกำลังกาย รูขุมขนจะเปิดออก รับออกซิเจนอย่างเต็มที่ ผิวจะเปล่งปลั่งพร้อมทั้งยังช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดี แถมยังช่วยขับสารพิษในร่างกายได้อีกด้วย ดังนั้น หากขาดการออกกำลังกายก็อาจส่งผลให้ผิวดูแกก่อนวัยได้

4. ดื่มน้ำน้อยในแต่ละวัน

ร่างกายของเราประกอบด้วยน้ำเป็นส่วนใหญ่ น้ำจะหล่อเลี้ยงและบำรุงผิวให้ชุ่มชื่น ซึ่งในวันหนึ่งร่างกายของเราต้องการน้ำถึง 8-10 แก้ว หากดื่มน้อยกว่านั้น จะทำให้ผิวขาดความชุ่มชื่น

5. ชะล่าใจ…ไม่ใช้ครีมกันแดด

ต่อให้ไม่ได้ออกแดดนาน ๆ หรือแดดแรง แม้แต่การอยู่แต่ในร่มทั้งวันก็จำเป็นต้องทาครีมกันแดดนะคะ เพราะในทุก ๆ ที่นั่นมีรังสี UV อยู่ ซึ่งอันตรายต่อผิวมากกว่าแสงแดดร้อน ๆ เสียอีก ซึ่งรังสี UV นั้นสามารถสะท้อนและทะลุวัสดุบางชนิดได้ โดนจะทำไปทำลายคอลลาเจนในผิว ดังนั้น หากมัวแต่ชะล่าใจไม่ใช้ครีมกันแดดล่ะก็ผิวเหี่ยวย่น หน้าแก่ก่อนวัยไม่รู้ตัวแน่ค่ะ

6. เลิกเป็นสิงห์สาวอมควัน

ควันบุหรี่ประกอบด้วยสารอนุมูลอิสระ ศัตรูร้ายของผิว และทำลายเซลล์ผิว ส่งผลให้คอลลาเจนเสื่อมลง ลดความเต่งตึง เปล่งปลั่งของผิว

7. แอลกอฮอล์ เลี่ยงก็เลี่ยง

แอลกอฮอล์จะไปกระตุ้นให้เราต้องฉี่บ่อยกว่าปกติ ซึ่งนับเป็นการขับน้ำออกจากร่างกายโดยไม่จำเป็นเลยค่ะ ซึ่งถ้าถูกขับน้ำมาก ๆ ความชุ่มชื่นของผิวก็จะลดลง ผิวหนังจะเหี่ยวย่นเร็ว

8. นอนไม่พอ

เคยได้ยินคำว่า ‘Beauty Sleep’ มั้ยคะ ที่มาของวลีนี้ก็คือ การนอนหลับพักผ่อนคือการปรนนิบัติดูแลผิวที่ดีที่สุด ถึงแม้เราจะใช้สกินแคร์ดีแค่ไหน ดูแลผิวมากมายอย่างไร แต่ถ้านอนหลับไม่พอล่ะก็ เสียงแรงเปล่าค่ะ

9. หน้าแก่ = โรค

นอกจากปัจจัยภายใน ภายนอก มลภาวะ และพฤติกรรมการใช้ชีวิตแล้ว ‘หน้าแก่’ ก็เป็นโรคได้เช่นกันค่ะ โรคหน้าแก่ (Cutis laxa) จะมีลักษณะอาการของผิวแก่ และหย่อนคล้อยก่อนวัย เป็นโรคที่พบได้น้อยมาก พบได้ทั้ง ชาย หญิง ทุกเพศ ทุกวัย ทุกเชื้อชาติ โดยมีสาเหตุมาจากความผิดปกติของเส้นใยอีลาสติน(Elastin) มีการเสื่อมเร็วกว่าอายุจริง

เคล็ดลับป้องกันหน้าแก่ ดูแลให้หน้าเด็ก

เมื่อเราทราบแล้วว่าสาเหตุที่ทำให้ผิวหน้าของเราแก่ก่อนวัยมีอะไรบ้าง แน่นอนว่าเราจะต้องพยายามเลี่ยงสาเหตุเหล่านั้นให้ได้มากที่สุดค่ะ นอกจากนั้นการดูแลก็สำคัญไม่แพ้กัน มาดูกันดีกว่าค่ะว่ามีวิธีหรือเคล็ดลับอะไรบ้าง

1. ยิ้มกว้าง ๆ ได้เลยไม่ต้องกลัว

หลายคนไม่ชอบยิ้ม เพราะคิดว่าการยิ้มจะทำให้เกิดร่อยย่นบนใบหน้าชัดขึ้น ความเป็นจริงแล้ว รอยย่นจากการยิ้มจะเกิดขึ้นได้ก็ในกรณีที่ผิวของเราแห้ง ขาดความชุ่มชื่นอยู่แล้วค่ะ และการยิ้มก็ใช้กล้ามเนื้อบนใบหน้าน้อยกว่าการโกรธ การแสดงออกว่าเครียดอีกนะ

2. กินองุ่นเยอะ ๆ

ไม่เพียงแต่องุ่น จะเป็นเบอร์รี่ ลูกพลัม หรือลูกแพร์ก็ได้เช่นกัน เพราะในองุ่นมีสารซอร์บิตอล (Sorbitol) ซึ่งมีส่วนช่วยในการกักเก็บน้ำ ช่วยดูดซับความชุ่มชื่นให้กับผิว

3. เส้นผมก็เกี่ยวนะ !

เส้นผมที่แห้งกรอบ ชี้ฟู ทำให้เราดูแก่กว่าอายุจริงได้ค่ะ ให้หมั่นดูแลเส้นผมให้สุขภาพดี ไม่แห้งเสีย ชี้ฟู ก็จะช่วยได้ค่ะ นอกจากนี้การทำสีผมให้เป็นสีอ่อน ๆ ก็ช่วยได้เช่นกัน แต่ก็ต้องหมั่นดูแลให้ดีด้วยนะคะ เพราะการทำสีผมมีโอกาสที่จะทำให้ผมเสียมากกว่าเดิมได้

4. แค่แต่งทรงคิ้วก็ดูเด็กลงได้

เหมือนกันกับเส้นผม คิ้วเองก็มีผลต่อลุคของสาว ๆ การเปลี่ยนทรงคิ้ว แม้จะดูเล็กน้อย แต่ก็ช่วยให้ดูเด็กลงได้ แนะนำเป็นทรงคิ้วตรง ๆ แบบสาวเกาหลี แทนคิ้วโค้งบาง นอกจากนี้ให้ใช้ที่เขียนคิ้วสีอ่อน ๆ หรือลงบาง ๆ ก็จะช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนลงได้ค่ะ

5. คงความชุ่มชื่นให้ได้แม้ล้างหน้า

การล้างหน้าแม้จะรู้สึกสะอาดสดชื่น แต่ก็ทำให้ใบหน้าแห้ง เนื่องจากเป็นการชะล้างน้ำมันบนผิวหน้าออกไปค่ะ และยิ่งใช้สบู่หรือโฟมล้างหน้าที่ทำให้หน้าแห้งตึงแล้วยิ่งเลวร้าย ! ลองเปลี่ยนมาใช้โฟมที่มีส่วนผสมของมอยซ์เจอไรเซอร์ และเลี่ยงโฟมที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ก็จะช่วยคงความชุ่มชื่นแม้ตอนล้างหน้าไว้ได้ค่ะ

6. รู้จักแต่งตัว

ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าให้เรากระชากวัยด้วยการแต่งตัวแบบเด็ก ๆ นะคะ เพียงแต่เป็นการรู้จักการวิธีการแต่งตัวให้เหมาะกับตัวเอง ยกตัวอย่างเช่น สาว ๆ ที่มีรอยคอย่น พยายามอย่าสวมเสื้อที่โชว์คอมากเกินไป ให้เลือกเสื้อที่ปกปิดตรงส่วนนั้น หรือหาผ้าพันคอเก๋ ๆ มาคลุมปิด เป็นต้นค่ะ

7. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

การออกกำลังกาย นอกจากจะช่วยเรื่องการควบคุมน้ำหนักแล้ว ยังดีต่อสุขภาพภายใน ภายนอก และผิวพรรณของเราอีกด้วย แนะนำให้เลือกวิธีออกกำลังกายที่เหมาะกับตัวเอง เช่น คนที่เข่าไม่ดีหรือน้ำหนักมาก ลองเลือกการออกกำลังกายที่ไม่เน้นใช้แรงเข่ามานัก อย่างโยคะ หรือพิลาทิส การออกกำลังกายไม่ว่าจะเป็นประเภทไหนก็ช่วยให้เลือดสูบฉีดได้ดี ทำให้ผิวสดใส เปล่งปลั่ง ชะลอรอยเหี่ยวย่น และการเสื่อมสภาพของผิวได้ดี

8. กินผักสีเขียว-แดงให้มากขึ้น

ผักใบเขียวมักมีวิตามินเคสูง (Vitamin K) ซึ่งนอกจากจะดีต่อการห้ามเลือดแล้ว ยังช่วยลดเรื่องรอยช้ำบนผิวได้ดีอีกด้วย ส่วนในผักสีแดงอย่างเช่น มะเขือเทศ ซึ่งมีไลโคปีน (Lycopene) และวิตามินเอสูง (Vitamin A) ที่ดีต่อผิว

9. ปรึกษาคลินิกเสริมความงาม

สำหรับสาว ๆ ที่มีปัญหาหน้าแก่ เพราะผิวแห้ง เหี่ยวย่น ขาดความยืดหยุ่นแล้วล่ะก็ อีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยได้ ก็คือ การเข้าปรึกษาคลินิกเสริมความงาม ซึ่งก็มีหลายบริการที่จะช่วยให้ใบหน้ากลับมาดูเด็กอีกครั้งได้ เช่น

• ร้อยไหม

เป็นการยกกระชับใบหน้าที่หย่อนคล้อย

• เลเซอร์

เป็นการใช้คลื่นเลเซอร์ในการช่วยกระชับใบหน้าที่หย่อยคล้อย พร้อมกันนั้นก็ยังช่วยให้ใบหน้าได้รูปสวยอีกด้วย

• ฉีดไขมัน

การฉีดไขมันบนใบหน้า ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศเกาหลี เป็นการใช้ไขมันมีอยู่แล้วในร่างกายของเรา ย้ายมาฉีดให้กับใบหน้า เพราะการเกิดริ้วรอยใบหน้า แก้มตอบลง หน้าผากยุบ ขมับยุบ เกิดจากไขมันบางส่วนบนใบหน้าสลายหายไปตามกาลเวลา แม้จะมีการฉีดสารเติมเต็มฟิลเลอร์ แต่เนื่องจากเป็นสารสังเคราะห์จึงมีความเสี่ยงในระยะยาว แต่การฉีดไขมันที่ใช้ไขมันที่มีอยู่แล้วในร่างกายของเราไปฉีดตรงใบหน้า จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในตอนนี้ที่ช่วยเติมเต็มใบหน้าของเราให้กลับมาเป็นเด็ก เต่งตึง มีน้ำมีนวลได้อีกครั้งค่ะ